ปัญหาที่ทำให้โรงงานไม่ผ่านมาตรฐานการปล่อยน้ำเสีย มักเกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำเสียและกระบวนการผลิตที่ไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพน้ำที่ถูกปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม C.M.P. GROUP ได้สรุปประเด็นสำคัญที่พบบ่อยฉบับเข้าใจง่ายไว้ให้ตามรายละเอียดดังนี้
2.การมีของแข็งแขวนลอย (TSS) และของแข็งที่ละลาย (TDS) สูง:
ของแข็งแขวนลอย (TSS) และของแข็งที่ละลาย (TDS) ในปริมาณสูงในน้ำเสียสามารถทำลายระบบนิเวศทางน้ำได้ ของแข็งเหล่านี้สามารถทำให้ระดับออกซิเจนในน้ำลดลงและฆ่าแมลงและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่อยู่ในน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดคราบตะกรันและทำลายท่อส่งน้ำและเครื่องจักรได้ การลด TSS สามารถทำได้ด้วยวิธีการตกตะกอน การกรองด้วยทรายหรือถ่านกัมมันต์ ส่วนการลด TDS อาจต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การแลกเปลี่ยนไอออนหรือการระเหย
3.ปริมาณไนเตรตและฟอสเฟตสูงในน้ำเสีย:
ไนเตรตและฟอสเฟตเป็นสารอาหารที่หากมีในน้ำเสียในปริมาณมากและถูกปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ อาจทำให้เกิดการเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่จำเป็นสำหรับการสลายสารอินทรีย์ ซึ่งอาจนำไปสู่การเจริญเติบโตของสาหร่ายและพืชน้ำ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ยูโทรฟิเคชัน (eutrophication) ที่ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลงจนสิ่งมีชีวิตในน้ำตาย การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้โดยการใช้วิธีการแลกเปลี่ยนไอออน การรีเวิร์สออสโมซิส หรือกระบวนการทางชีวภาพในการกำจัดไนเตรต และการใช้กระบวนการตกตะกอนทางเคมีในการกำจัดฟอสเฟต
4.น้ำเสียมีน้ำมันและไขมันสูง:
น้ำมันและไขมันเป็นสารที่ไม่ชอบน้ำ (hydrophobic) ซึ่งหมายความว่าสารเหล่านี้มักจะไม่ละลายในน้ำและจะเกาะติดกับพื้นผิวที่ปราศจากน้ำ หากมีน้ำมันและไขมันในน้ำเสียในปริมาณสูง อาจทำให้ท่อระบายน้ำอุดตันและเกิดปัญหาด้านสุขภาพได้ การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้ด้วยการใช้กระบวนการลอยตัวด้วยอากาศละลาย (DAF) หรือการกรองด้วยเทคโนโลยีเช่นการกรองด้วยเมมเบรนหรือการใช้ถ่านกัมมันต์เพื่อกำจัดน้ำมันและไขมันออกจากน้ำเสีย
5. ปริมาณน้ำเสียที่ถูกปล่อยออกเกินกว่าที่กำหนด:
ปริมาณน้ำเสียที่ถูกปล่อยออกจากโรงงานอาจถูกจำกัดโดยกฎระเบียบและมีค่าธรรมเนียมการเชื่อมต่อขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ถูกปล่อยออก หากโรงงานมีปริมาณน้ำเสียที่มากเกินไป อาจต้องเผชิญกับค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้โดยการรีไซเคิลน้ำเสียเพื่อใช้ใหม่หรือลดปริมาณน้ำเสียให้เหลือศูนย์ด้วยกระบวนการเช่นการรีเวิร์สออสโมซิส การกรองนาโน หรือการแลกเปลี่ยนไอออน
6. การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลง:
ข้อกำหนดในการปล่อยน้ำเสียมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมและที่ตั้งของโรงงาน การไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้อาจนำไปสู่ปัญหาที่ร้ายแรง การติดต่อกับหน่วยงานกำกับดูแลท้องถิ่นและการมีผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดน้ำเสียที่มีความรู้ในกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงจะช่วยให้โรงงานสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. การศึกษาและทดสอบความสามารถในการบำบัดน้ำเสีย:
การศึกษาความสามารถในการบำบัดน้ำเสียสามารถช่วยให้โรงงานระบุวิธีการที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนของน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่โรงงานจะนำเทคโนโลยีใดๆ มาใช้ ควรพิจารณาการทดสอบน้ำเสียเพื่อประเมินว่าเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่ ซึ่งจะช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว
C.M.P. GROUP ประเทศไทย รับเป็นที่ปรึกษาโครงการ รับออกแบบระบบ ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ รวมไปถึงการจำหน่ายสินค้าและก่อสร้างระบบที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรีไซเคิลน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย มีอุปกรณ์การบำบัดน้ำเสียสิ่งปนเปื้อนอุปกรณ์ แบบครบวงจร ที่มีมาตรฐานสากล
สามารถติดต่อขอคำปรึกษาจาก CMP GROUP ได้เลย เรายินดีบริการลูกค้าด้วยใจ
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.cmpthai.com/water-air-treatment-purifier
สนใจสินค้าสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
E-mail : sales@cmpthai.com
โทร : 02-319-0950
#CMP #CMPTHAI #CMPGROUP #PUMP #Membrane #น้ำเสีย #บำบัดน้ำเสีย #สารเคมี #WastewaterRecyclePlant #WastewaterRecycle #น้ำทิ้งกลับมาใช้ใหม่ #รีไซเคิลน้ำ #Membrane #เมมเบรน #MembraneSeparationTechnology #AsahiKaseiMicroza #อุตสาหกรรม